การบังคับส้มเขียวหวานที่ปลูกในสภาพร่องสวน ให้มีผลผลิตนอกฤดูโดยไม่ต้องใช้สารเคมี
การบังคับส้มเขียวหวานให้ออกดอกและติดผลนอกฤดูด้วยวิธีการบังคับน้ำเป็นวิธีการที่ทำง่ายไม่ยุ่งยาก
ทั้งยังสามารถกำหนดวัน เวลา ที่จะจำหน่ายผลผลิตได้แน่นอน
และผลผลิตที่ได้จะออกมาพร้อมๆ กันและมีจำนวนมากพอป้อนส่งตลาดได้อีกด้วย
โดยเฉพาะส้มเขียวหวานที่ปลูกแบบยกร่องนั้น สามารถควบคุมให้ติดดอกออกผลได้ตามเวลาที่ต้องการ
เนื่องจากสามารถควบคุมระดับน้ำได้ง่าย
โดยคอยสังเกตต้นส้มเขียวหวานขณะที่มีใบแก่ครบทุกต้น
แล้วจึงค่อยทำการงดน้ำ แต่ถ้ายังมีใบอ่อนจะส่งผลกระทบต่อระบบราก ทำให้ระบบรากต้องดูดน้ำและธาตุอาหารเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปเลี้ยงใบอ่อนที่กำลังเจริญเติบโต สำหรับระยะออกดอกไปจนถึงเก็บผลผลิตของส้มเขียวหวานโดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 9-10 เดือน ดังนั้นในการทำนอกฤดูจึงควรมีการวางแผนการปฏิบัติงานให้ดี เพื่อให้ผลผลิตมีออกมาตามเวลาที่กำหนดหรือออกมาในช่วงเวลาที่มีราคาสูง
แล้วจึงค่อยทำการงดน้ำ แต่ถ้ายังมีใบอ่อนจะส่งผลกระทบต่อระบบราก ทำให้ระบบรากต้องดูดน้ำและธาตุอาหารเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปเลี้ยงใบอ่อนที่กำลังเจริญเติบโต สำหรับระยะออกดอกไปจนถึงเก็บผลผลิตของส้มเขียวหวานโดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 9-10 เดือน ดังนั้นในการทำนอกฤดูจึงควรมีการวางแผนการปฏิบัติงานให้ดี เพื่อให้ผลผลิตมีออกมาตามเวลาที่กำหนดหรือออกมาในช่วงเวลาที่มีราคาสูง
คุณสุขสันต์ บุญมาก เกษตรกรวัย 42 ปี จากที่เคยไปทำงานรับจ้างทำสวนส้มในภาคใต้มาไม่ต่ำกว่า 10 ปี
ได้มีการศึกษาเรียนรู้ด้านเทคนิคพิเศษต่างๆในกระบวนการผลิตกลับมาใช้ในบ้านเกิดของตนที่จังหวัดศรีสะเกษ
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการปลูก การจัดจำหน่าย
รวมไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้ผลผลิตของส้มเขียวหวายจำหน่ายได้ราคาดีไม่มีขาดทุน
จากนั้น
คุณสุขสันต์ก็เริ่มนำเอากิ่งพันธุ์ส้มเขียวหวานที่ให้ผลผลิตสูงมาปลูกเองที่บ้านเกิด
จากจำนวน 10 ต้นและขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนสามารถปลูกได้
100 กว่าต้น ในพื้นที่ 9 ไร่
ทำการปลูกส้มเขียวหวานด้วยวิธีการบังคับการให้น้ำเพื่อให้ออกผลผลิตนอกฤดูกาล
สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดทั่วไป
วิธีการบังคับให้ส้มเขียวหวานออกนอกฤดูกาล
1.หลังจากที่ส้มเขียวหวานให้ผลผลิตจนเก็บเกี่ยวจนหมดแล้วให้ทำการตัดแต่งกิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ อาทิ กิ่งกระโดง กิ่งแห้ง และกิ่งที่ไม่ให้ผลผลิตทิ้งออกไป
2. ถ้าพบว่าส้มมีการแตกใบอ่อนออกมาใหม่ก็ให้เด็ดทิ้งหรือจะต้องบำรุงต้นให้ได้ใบแก่เต็มที่ก่อนที่จะงดการให้น้ำ
1.หลังจากที่ส้มเขียวหวานให้ผลผลิตจนเก็บเกี่ยวจนหมดแล้วให้ทำการตัดแต่งกิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ อาทิ กิ่งกระโดง กิ่งแห้ง และกิ่งที่ไม่ให้ผลผลิตทิ้งออกไป
2. ถ้าพบว่าส้มมีการแตกใบอ่อนออกมาใหม่ก็ให้เด็ดทิ้งหรือจะต้องบำรุงต้นให้ได้ใบแก่เต็มที่ก่อนที่จะงดการให้น้ำ
3.เทคนิคพิเศษเพื่อบังคับให้ส้มเขียวหวานออกผลผลิตนอกฤดูก็คือหยุดการให้น้ำภายในสวนส้มประมาณ
1 สัปดาห์
จากนั้นส้มจะแสดงอาการขาดน้ำโดยใบที่เขียวจะเริ่มเหี่ยวและห่อเข้าหากัน
4. เมื่อส้มเริ่มใบเหี่ยวจะเร่งให้น้ำอย่างเต็มที่ โดยปล่อยให้น้ำเข้าท่วมแปลงไปพร้อมๆกับการรดน้ำด้วยสายยางให้ชุ่มหรือให้น้ำด้วยระบบมินิสปริงเกอร์เพื่อเป็นการทุ่นแรงอย่างน้อย 3 วัน/ครั้ง
4. เมื่อส้มเริ่มใบเหี่ยวจะเร่งให้น้ำอย่างเต็มที่ โดยปล่อยให้น้ำเข้าท่วมแปลงไปพร้อมๆกับการรดน้ำด้วยสายยางให้ชุ่มหรือให้น้ำด้วยระบบมินิสปริงเกอร์เพื่อเป็นการทุ่นแรงอย่างน้อย 3 วัน/ครั้ง
5.หลังจากให้น้ำประมาณ 7 วัน
ส้มเขียวหวานจะเริ่มมีการแทงตาดอกออกมาให้เห็น (ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม )
หลังจากนั้นก็ให้น้ำตามปกติ เมื่อดอกเริ่มบานและเริ่มติดผลควรมีการฉีดยาป้องกันกำจัดแมลงศัตรู
แล้วใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 เพื่อบำรุงผลให้มีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ หลังจากส้มเขียวหวานติดผลได้ประมาณ
5 เดือน ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 เพื่อให้ส้มมีคุณภาพดีและเป็นการเพิ่มความหวานให้กับผลส้มอีกด้วย
7.ก่อนทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 10 วัน ควรหยุดการให้น้ำเพื่อให้ผลส้มมีรสชาติเข้มข้น เนื้อไม่ฉ่ำน้ำและสามารถเก็บรักษาผลส้มไว้ได้นานกว่าการปลูกส้มที่ให้ผลผลิตตามธรรมชาติ
7.ก่อนทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 10 วัน ควรหยุดการให้น้ำเพื่อให้ผลส้มมีรสชาติเข้มข้น เนื้อไม่ฉ่ำน้ำและสามารถเก็บรักษาผลส้มไว้ได้นานกว่าการปลูกส้มที่ให้ผลผลิตตามธรรมชาติ
**ทั้งหมดนี้เป็นหัวใจหลักในการวิธีบัฃงคับส้มเขียวหวานให้ออกนอกฤดูแบบง่ายๆ โดยไม่ใช้สารเคมี เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถบังคับให้ส้มเขียวหวานออกในช่วงเวลาใดก็ได้ ยังไงๆเกษตรกรก็ขายได้กำไรแน่นอน
ประโยชน์ของการบังคับให้ส้มเขียวหวานออกนอกฤดู
1.เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะ ช่วยแก้ปัญหาส้มล้นตลาดได้
2.สามารถจำหน่ายได้ในราคาเดียวตลอดทำให้ราคาส้มไม่ตกต่ำ สร้างรายได้งาม
3.สามารถบังคับผลผลิตให้ออกในช?วงใดก็ได้ตามความเหมาะสม
4.การบังคับส้มให้ออกนอกฤดูกาลในลักษณะเช่นนี้จะทำให้ได้ส้มที่มีคุณภาพและต้นไม่เสื่อมโทรม ทำให้ส้มมีอายุยืน
พื้นที่ 9 ไร่จากสวนคุณสุขสันต์ ให้ผลผลิตส้มเขียวหวานมากกว่า 6,000 กิโลกรัม (6 ตัน) ในรอบฤดูการผลิต จำหน่ายผลผลิตโดยแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ดังนี้
1. ขนาดใหญ่ : มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6.5 ซม. จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 20-25 บาท
2. ขนาดกลาง : มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 ซม. เป็นส้มขนาดกลางที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมรับประทานผลสด จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 15 บาท
3. ขนาดเล็ก : มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะนำไปแปรรูปเป็นน้ำส้มค้น จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 10 บาท
ผลผลิตส่วนใหญ่ส่งขายในตลาด เขต อ.เมือง จังหวัดสุรินทร์และพื้นที่ อ.อุทุมพรพิสัย,อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ นอกจากจำหน่ายผลผลิตแล้วยังตอนกิ่งพันธุ์จำหน่ายสำหรับผู้ที่สนใจทั่วไป ราคากิ่งละ 25 บาท เพื่อเสริมรายได้และขยายพันธุ์ไว้ปลูกใหม่
1.เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะ ช่วยแก้ปัญหาส้มล้นตลาดได้
2.สามารถจำหน่ายได้ในราคาเดียวตลอดทำให้ราคาส้มไม่ตกต่ำ สร้างรายได้งาม
3.สามารถบังคับผลผลิตให้ออกในช?วงใดก็ได้ตามความเหมาะสม
4.การบังคับส้มให้ออกนอกฤดูกาลในลักษณะเช่นนี้จะทำให้ได้ส้มที่มีคุณภาพและต้นไม่เสื่อมโทรม ทำให้ส้มมีอายุยืน
พื้นที่ 9 ไร่จากสวนคุณสุขสันต์ ให้ผลผลิตส้มเขียวหวานมากกว่า 6,000 กิโลกรัม (6 ตัน) ในรอบฤดูการผลิต จำหน่ายผลผลิตโดยแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ดังนี้
1. ขนาดใหญ่ : มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6.5 ซม. จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 20-25 บาท
2. ขนาดกลาง : มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 ซม. เป็นส้มขนาดกลางที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมรับประทานผลสด จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 15 บาท
3. ขนาดเล็ก : มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะนำไปแปรรูปเป็นน้ำส้มค้น จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 10 บาท
ผลผลิตส่วนใหญ่ส่งขายในตลาด เขต อ.เมือง จังหวัดสุรินทร์และพื้นที่ อ.อุทุมพรพิสัย,อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ นอกจากจำหน่ายผลผลิตแล้วยังตอนกิ่งพันธุ์จำหน่ายสำหรับผู้ที่สนใจทั่วไป ราคากิ่งละ 25 บาท เพื่อเสริมรายได้และขยายพันธุ์ไว้ปลูกใหม่
จากประสบการณ์และความสำเร็จที่คุณสุขสันต์ใช้วิธีการศึกษา
ค้นคว้าและพลิกแพลงวิธีการผลิต จนได้รับการยอมรับจากเพื่อนบ้าน
ทั้งในหมู่บ้านของตนเอง และชุมชนใกล้เคียงให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
และเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งในด้านการแนะนำ
และให้คำปรึกษากับเกษตรกรทั่วไป
ซึ่งในอนาคตคุณสุขสันต์มีแผนการพัฒนาการผลิตด้วยวิธีการต่างๆ
ทั้งการศึกษาลู่ทางการตลาด ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของแนวทางการปลูกให้ได้กำไร
ปัจจุบันยังได้ขยายพื้นที่การผลิตจากเดิม 9 ไร่ เป็น 14 ไร่จากผลผลิตทั้งหมด 6,000 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นเป็น 9,000 กิโลกรัม
แหล่งอ้างอิง
: นายสุขสันต์ บุญมาก 30 หมู่ที่11 ตำบลเมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน
จังหวัดศรีสะเกษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น